เครื่องวัดความหนาเป็นอุปกรณ์วัดแบบมือถือที่ใช้ในการวัดความหนาของวัสดุหรือตัวอย่างที่กำหนด มักใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์และการดำเนินงานด้านวิศวกรรมที่ต้องการความหนาของวัตถุเฉพาะเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของรัฐบาล
หลักการทำงานเกจวัดความหนา
ขึ้นอยู่กับประเภทของเกจวัดความหนา อย่างไรก็ตาม เกจวัดความหนาอัลตราโซนิกทำงานโดยการวัดระยะเวลาที่เสียงเดินทางจากเกจผ่านวัสดุไปยังส่วนท้ายของวัตถุและกลับไปที่เกจ ด้วยวิธีนี้ เกจสามารถประมวลผลข้อมูลตามระยะเวลาที่เสียงผ่านตัวอย่างที่กำหนด
ประเภทของเกจวัดความหนา
1.เครื่องมือวัดความหนาแบบอัลตราโซนิก
เกจวัดความหนาแบบอัลตราโซนิกใช้คลื่นเสียงในการวัดความหนาของตัวอย่างโดยการวัดระยะเวลาที่เสียงเดินทางผ่านตัวอย่างและกลับไปที่มิเตอร์
2.เกจวัดความหนาผิวเคลือบ
เกจวัดความหนาผิวเคลือบเป็นเกจวัดความหนาอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการวัดความหนาของสารเคลือบที่ไม่ใช่แม่เหล็กและฉนวนบนวัสดุเหล็ก เช่น เหล็ก และวัสดุที่ไม่ใช่เหล็ก รวมถึงพลาสติกและทองเหลือง ซึ่งใช้กับเครื่องมือระดับอุตสาหกรรม
เกจเหล่านี้สามารถวัดความหนาของพลาสติกขึ้นรูปบนเลื่อยอุตสาหกรรม ดอกสว่าน และด้ามจับเครื่องมือเจียร ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัดและทันตกรรม เพื่อให้มั่นใจถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เพียงพอ
Thickness meter บางชนิด เช่น เกจวัดความหนาเคลือบสี สามารถใช้วัดความหนาของสีในอู่ซ่อมรถและอู่ต่อตัวถังรถยนต์ได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.grendelschildren.com/category/เครื่องวัดความหนา
สิ่งที่สามารถวัดได้ด้วยเกจวัดความหนา
เครื่องวัดความหนาแบบดิจิตอลและมิเตอร์เป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย:
1.อุตสาหกรรมยานยนต์ / ยานยนต์: เกจวัดความหนาส่วนใหญ่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และสามารถใช้วัดความหนาของแผ่นโลหะและเน้นจุดบกพร่องในตัวถังรถยนต์ ตลอดจนวัดความหนาของบานกระจกที่ใช้ในกระจกหน้ารถ มักต้องใช้เครื่องมือวัดความหนาแบบอัลตราโซนิกเพื่อเน้นจุดบกพร่องในการผลิต ในขณะที่เกจวัดความหนาของการเคลือบสีเฉพาะทางจะใช้ในอู่ซ่อมรถและตัวถังรถเพื่อใช้ความหนาที่เหมาะสมของสีเมทัลลิก
2.วิศวกรรมและการผลิต: ต่อจากนี้ไปในอุตสาหกรรมยานยนต์ โรงงานขนาดใหญ่และโรงงานวิศวกรรมที่ผลิตอะไรก็ได้ตั้งแต่ของเล่น ยานยนต์ และชิ้นส่วนเครื่องจักรมักต้องการวัดความหนาเพื่อรับประกันคุณภาพและความสม่ำเสมอของชิ้นส่วนในสายการผลิต ในด้านวิศวกรรม โดยเฉพาะชิ้นส่วนเครื่องบิน จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อหาข้อบกพร่องและความไม่สมบูรณ์ เกจวัดความหนาใช้เพื่อวัดความหนาของวัสดุอย่างแม่นยำเพื่อความปลอดภัย
3.นักอัญมณี: เครื่องวัดทองผู้เชี่ยวชาญสามารถใช้วัดความหนาของทองคำและโลหะมีค่าอื่นๆ ด้วยการใช้อุปกรณ์วัดความหนาของอัลตราโซนิก นักอัญมณีสามารถตรวจจับได้ว่ารายการทองคำมีแกนของวัสดุที่แตกต่างกันหรือไม่
ข้อควรพิจารณาในการซื้อเครื่องมือวัดความหนา
วัสดุตัวอย่าง: วัสดุตัวอย่างสามารถกำหนดประเภทของเครื่องวัดความหนาที่คุณต้องการได้ เกจวัดความหนาเหมาะสำหรับโลหะ พลาสติก และเซรามิกส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ยางและคอมโพสิตอาจต้องใช้เกจขั้นสูงที่มีการเจาะในระดับที่สูงขึ้น
ความหนา: เมื่อซื้อเกจวัดความหนา คุณจะต้องแน่ใจว่าช่วงการวัดความหนาเพียงพอสำหรับตัวอย่างที่คุณต้องการวัด วัสดุที่มีความหนามักจะถูกวัดที่ความถี่ต่ำ ในขณะที่ตัวอย่างที่บางกว่านั้นต้องการความถี่ที่สูงกว่า
พื้นผิว: พื้นผิวของตัวอย่างอาจส่งผลต่อความสามารถของมาตรวัดในการจับคู่และรับการวัดความหนาที่แม่นยำ การวัดบนตัวอย่างที่นูนอาจต้องใช้เกจจุ่มแบบไม่สัมผัสเพื่อให้มีการต่อกันเสียงที่เพียงพอ
ความละเอียด/ความแม่นยำ: เครื่องวัดระดับมืออาชีพที่มีราคาแพงกว่ามักจะให้ระดับความแม่นยำที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐาน อาจต้องใช้ความแม่นยำที่สูงขึ้นเมื่อต้องจัดการกับตัวอย่างที่ละเอียด เช่น เลนส์ แก้ว และสี
ต้นทุน: ปัจจุบันมีเเกจวัดความหนาขายหลายประเภทตั้งแต่รุ่นอัลตราโซนิกที่ได้รับการอนุมัติขั้นสูงไปจนถึงรุ่นเกจวัดความหนาต้นทุนต่ำ เมื่อซื้อเกจวัดความหนา การพิจารณาคุณสมบัติที่คุณต้องการเป็นประจำเป็นสิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังทำงานด้านกฎหมาย คุณจะต้องมีค